บันทึกอนุทินวันที่ 28 กันยายน 2558
Save Time 8
งดการเรียนการสอน
# สอบการภาค #
วันที่ 28 กันยายน - 6 ตุลาคม 2558
จุดมุ่งหมายของงานวิจัย
- เพื่อศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติของเด็กปฐมวัยที่มีผลต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
- เพื่อเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติก่อนและหลังการทดลอง
สมมุติฐานการวิจัย
เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานวิทยาศาสตร์สูงขึ้นกว่าก่อนการทดลอง
วิธีการดำเนินการวิจัย
- การกำหนดตัวอย่างการวิจัย
กลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กปฐมวัย ชาย-หญิง อายุระหว่าง 5 - 6 ปี ศึกษาอยู่ชั้นอนุบาล 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดภูเขาดิน) สังกัดเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์
โดยมีขั้นตอนการเลือกกลุ่มตัวอย่างดังนี้
- เลือกกลุ่มตัวอย่างจากนักเรียนทั้งหมด 6 ห้องเรียน โดยวิธีการจัดฉลากมา 1 ห้องเรียน ได้นักเรียนชั้นอนุบาล 3/1 จำนวน 30 คน
- จากลุ่มตัวอย่างในข้อ 1 สุ่มอย่างง่ายอีกครั้ง ด้วยการจับฉลากเพื่อกำหนดเป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 15 คน
2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
2.1 แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติ
2.2 แบบทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
3. ขั้นตอนในการวิจัย
3.1 ขอความร่วมมือกับผู้บริหารโรงเรียนในการทำวิจัย
3.2 ชี้แจงให้ครูประจำชั้นราบรูปแบบงงานวิจัยและขอความร่วมมือในการดำเนินการวิจัย
3.3 สร้างความคุ้นเคยกับเด็กกลุ่มตัวอย่างเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์3.4 ก่อนทำการทดลองผู้วิจัยทำการทดสอบทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย3.5 ดำเนินการทดลองโดยใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์3.6 เมื่อเสร็จสิ้นการทดลองในสัปดาห์ที่ 8 ประเมินหลังการทดลอง
4. การวิเคราะห์ข้อมูล
สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล
- ก่อนใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับปานกลางทั้งโดยรวมและจำแนกรายทักษะ หลังการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติของเด็กปฐมวัยอยู่มีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งโดยรวมและจำแนกรายทักษะอยู่ในระดับมาที่สุด
- หลังการใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติเด็กปฐมวัยมีทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้นกว่าก่อนใช้แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาสตร์
กิจกรรมที่ใช้ในการวิจัย
นักการศึกษา / หลักการและแนวคิด
กีเซล เชื่อว่า พัฒนาการของเด็กเป็นอย่างมีแบบแผนและเป็นขั้นตอน
ฟรอย์ เชื่อว่าประสบการณ์ในวัยเด็กจะส่งผลต่อบุคลิกภาพของคนเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
อิริคสัน เชื่อว่า ถ้าเด็กอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เด็กจะเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีก็จะส่งผลให้เด็กมองโลกในแง่ร้าย
เพียเจต์ เชื่อว่า พัฒนาการเชาว์ปัญญาของเด็กจะเกิดขึ้นเมื่อเด็กมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม
ดิวอี้ เชื่อว่า เด็กเรียนรู้โดยการกระทำ
สกินเนอร์ เชื่อว่า เด็กทุกคนมีความแตกต่างกัน และเมื่อใดที่เด็กได้รับการชมเชย รวมทั้งประสบผลสำเร็จในกิจกรรม เด็กจะสนใจทำในสิ่งต่อไป
เอลคายน์ เชื่อว่า เด็กควรมีโอกาศเรียนรู้ด้วยตนเองโดยไม่ถูกบังคับ
การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
>> การเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง
>> การเรียนรู้โดยผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5
>> พัฒนาทักษะ การสังเกต การเปรียบเทียบ การจำแนก การสรุปความคิดรวบ-ยอด การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์
>> กิจกรรมโครงการ กิจกรรมประจำวัน การเล่น กิจกรรมการทดลอง กิจกรรมการศึกษานอกสถานที่ กิจวัตรประจำวัน ฯลฯ
การเรียนรู้แบบองค์รวม
ความหมายของวิทยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์ หมายถึง การศึกษาสืบค้นและจัดระบบความจริงเกี่ยวกับธรรมชาติโดยอาศัยกระบวนการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์
แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
การศึกษาวิธีการทางวิทยาศาสตร์
เจตคติทางวิทยาศาสตร์
1. ความอยากรู้อยากเห็น >> 2. ความเพียรพยายาม >> 3. ความมีเหตุผล >>
Skills4. ความซื่อสัตย์ >> 5. ความมีระเบียบรอบคอบ >> 4. ความใจกว้าง
ทฤษฎีเพียเจต์
เพียเจต์ เชื่อว่า พัฒนาการของเด็กมีการเรียนรู้เป็นไปตามพัฒนาการตามวัย ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่างๆ เป็นลำดับขั้น
ลำดับขั้นพัฒนาการเด็กปฐมวัย ตามแนวคิดเพียเจต์ มีดังนี้
กิจกรรม
อาจารย์แจกกระดาษ A4 คนละ 1 แผ่น โดยให้ทุกคนประดิษฐ์เป็นของเล่นตามจิตนาการและต้องสามารถนำมาเชื่อโยงกับวิทยาศาสตร์ได้ พร้อมออกไปนำเสมอหน้าชั้นเรียน
ผลงานของหนูคือว่าว คะ
APPlyนำไปประยุกต์ใช้กับวิทยาศาสตร์ ในเรื่องของลม
องค์ประกอบของว่าวที่ลอยอยู่ในอากาศได้ คือ
แรงที่กระทำกับตัวว่าวมี 4 แรงคือ
- กระแสลมที่เคลื่อนที่ไปในแนวขนานกับผิวโลกทางใดทางหนึ่ง อย่างสม่ำเสมอ
- พื้นที่ให้กำลังยกหรือแรงยกให้ได้แก่ พื้นที่ของตัวว่าว
- อุปกรณ์บังคับได้แก่ เชือกหรือด้ายรั้งว่าวและสายซุงซึ่งทำหน้าที่ปรับปรุงมุมปะทะของอากาศกับพื้นที่ของตัวว่าว ทำให้เกิดแรงยกและแรงดัน
- แรงขับ >> แรงที่คนดึงสายว่าวสวนทางกับลม
- แรงต้าน >> แรงที่มีทิศทางเดียวกับกระแสลม
- แรงยก >> แรงที่ทำให้ว่าวลอยขึ้นไปในอากาศได้
- แรงน้ำหนักถ่วง >> แรงที่อยู่ด้านล่างของว่าว